เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views 1660

2024-03-20 17:00

(กูรูเช็ค) อัพเดต ข้อดี ข้อเสีย เทคนิคปลูกผมแต่ละแบบ ก่อนเสียเงินฟรี!

การปลูกผมในปัจจุบันมีหลายเทคนิคมากคุณๆ ใครที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะทำวิธีไหนมาแก้ปัฯหาผม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผมร่วง ผมบาง หัวล้าน แต่ละเทคนิคมีข้อดีข้อเสียยังไงบ้าง หรือจะทำที่ไหนดี วันนี้กูรูเช็ครวบรวมข้อมูลมาให้คุณๆได้อ่าน จะได้เลือกวิธีที่ตอบโจทย์คุณๆมากที่สุดกันค่ะ 

ข้อดี ข้อเสีย ของเทคนิคการปลูกผมยอดนิยมแต่ละแบบ

1. การปลูกผมแบบ Long hair FUI

คือ การศัลยกรรมย้ายเซลล์รากผมในเทคนิคแบบ FUE ไม่มีแผลเย็บ แต่ไม่ต้องตัดผมให้สั้น เพราะเครื่องมือหัวเจาะจะมีขนาดเล็กมากเจาะรูแล้วดึงเส้นผมและเซลล์รากผมออกมาปลูกขณะตอนที่ผมยาวได้เลย หรือเรียกอีกอย่างว่า “Celebrity hair transpant” เทคนิคนี้จะสามารถสร้างแนวผมใหม่ได้ตามต้องการ ผมที่ปลูกใหม่จะมีลักษณะที่ยาวกว่า ทำให้เห็นแนวผมที่ปลูกได้ทันทีหลังทำเสร็จ  
ข้อดีของการปลูกผม Long hair FUI
• ใช้เข็มขนาดเล็กในการเจาะรากผม ทำให้แผลเป็นมีขนาดเล็กแค่ 0.6-0.8 มิลลิเมตร มองเห็นได้ยาก เหมาะกับคุณๆที่ต้องการไว้ผมสั้น
• ไม่ต้องโกนศีรษะ ไว้ผมยาวได้ปกติ เหมาะกับคุณๆที่ต้องการปิดบังรอยแผลเป็น หรือต้องการไว้ทรงผมเดิมหลังการปลูก
• เส้นผมที่ปลูกจะมีทิศทางและความยาวที่ใกล้เคียงกับเส้นผมเดิม ทำให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
• ใช้เวลาพักฟื้นเพียง 1-2 วัน สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
• ใช้ยาชาเฉพาะที่ ทำให้รู้สึกเจ็บปวดน้อย
ข้อเสียของการปลูกผม Long hair FUI
• การปลูกผม Long hair FUI ใช้เวลานานกว่าการปลูกผมแบบ FUE ทั่วไป เนื่องจากต้องใช้เวลาในการแยกเส้นผมยาวก่อนนำไปปลูก
• การปลูกผม Long hair FUI มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการปลูกผมแบบ FUE ทั่วไป
• การแยกเส้นผมยาวอาจทำให้รากผมเสียหายได้
• เส้นผมที่ปลูกอาจไม่ยาวเท่าเส้นผมเดิม หรืออาจไม่ขึ้นทั้งหมด

2. การปลูกผมแบบ DHI

คือ การปลูกผมโดยใช้เครื่องมือเฉพาะทางที่ชื่อว่า “DHI Implanter”  ในการปักและปลูกภายในครั้งเดียว แพทย์สามารถควบคุมความลึก มุม และทิศทางของรากผม เพื่อให้เส้นผมใหม่ที่ปลูกมีลักษณะเดียวกันกับผมตามธรรมชาติ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็น และด้วยความพิเศษของหัวเจาะที่มีขนาดเล็กมากเพียงแค่ 0.5 – 0.9 mm เท่านั้นนะ 
ข้อดีของการปลูกผม DHI
• แผลมีขนาดเล็กมาก หายไว ภายใน 7-10 วันไม่ต้องพักฟื้น
• ไม่ต้องโกนผม เทคนิค DHI ช่วยให้ปลูกผมโดยไม่ต้องโกนผมทั้งศีรษะ เหมาะกับผู้ที่ต้องการไว้ผมทรงเดิม
• แพทย์สามารถควบคุมทิศทาง มุม และความลึกของเส้นผมได้อย่างแม่นยำ ทำให้ผมที่ขึ้นใหม่ดูเป็นธรรมชาติ
• โดยทั่วไปแล้ว คนไข้สามารถกลับบ้านได้หลังจากทำการปลูกผม DHI และสามารถสระผมได้ภายใน 2-3 วัน
• เทคนิค DHI เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผมบาง ศีรษะล้านน้อยถึงปานกลาง
ข้อเสียของการปลูกผม DHI
• ค่าใช้จ่ายสูง เทคนิค DHI requires แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมือพิเศษ ทำให้ค่าใช้จ่ายสูงกว่าเทคนิคอื่นๆ
• ใช้เวลานาน การปลูกผม DHI ใช้เวลานานกว่าเทคนิค FUE เพราะต้องทำทีละกราฟ
• เทคนิค DHI ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาศีรษะล้านกว้าง เพราะอาจใช้เวลานานและค่าใช้จ่ายสูง
• หลังการปลูกผม DHI อาจเกิดอาการบวม ซึ่งจะหายไปเองภายใน 2-3 วัน
• ผลลัพธ์ของการปลูกผม DHI ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ทักษะของแพทย์ สุขภาพของหนังศีรษะ และการดูแลหลังการปลูกผม

3. การปลูกผมแบบ FUE

คือ การผสมผสานระหว่างเทคนิค FUE + DHI ที่ดึงเอาจุดเด่นของการปลูกผมโดยใช้เครื่องมือเฉพาะทางที่ชื่อว่า “DHI Implanter” (Direct Hair Implanter) หัวเจาะขนาดเล็กช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการโหลดกราฟต์ผมช่วยให้การปลูกผมทำได้รวดเร็วขึ้น 
ข้อดีของการปลูกผม FUE
• แผลเป็นมีขนาดเล็ก มองเห็นได้ยาก เหมาะกับคนไว้ผมสั้น
• ไม่ต้องเย็บแผล จึงไม่ต้องเสียเวลามาตัดไหม
• ฟื้นตัวเร็ว สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
• แผลหายไว
• ได้กราฟผมที่มีคุณภาพ เส้นผมที่ปลูกใหม่มีอัตราการรอดสูง
• สามารถเก็บเส้นขนจากส่วนอื่น ของร่างกายมาปลูกผมได้ เช่น ขนเครา
ข้อเสียของการปลูกผม FUE
• ใช้เวลานาน กว่าการปลูกผมแบบ FUT(การย้ายเซลล์รากผมบริเวณท้ายทอย หรือขมับ ไปปลูกทีละกราฟ)
• ค่าใช้จ่ายสูง กว่าการปลูกผมแบบ FUT
• ได้จำนวนกราฟผมน้อย กว่าการปลูกผมแบบ FUT
• อาจเกิดอาการบวม ช้ำ และชาบริเวณหนังศีรษะหลังการปลูก
• มีความเสี่ยง เกิดแผลเป็นถาวร
• มีโอกาส ที่ผมที่ปลูกจะไม่ขึ้น

4. การฉีด Growth prp platelet rich plasma

คือ เทคนิคที่นำเอาเม็ดเลือดแดงของคุณๆมาปั่นสกัดเกล็ดเลือด และฉีดให้กับบริเวณหนังศีรษะที่ผมบางหรือมีการหลุดร่วงเยอะ สามารถช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ และทำให้ผมดูหนา ดูเต็มมากขึ้น แต่ก็ต้องทำต่อเนื่องกันหลายครั้งนะคะ 
ข้อดีของการปลูกผม PRP(Platelet Rich Plasma)
• ปลอดภัย PRP สกัดจากเกล็ดเลือดของผู้เข้ารับบริการเอง จึงมีความเสี่ยงต่อการแพ้หรือเกิดผลข้างเคียงต่ำ
• PRP ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ทำให้แผลหายเร็ว
• เป็นการรักษาแบบไม่ผ่าตัด เลยไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังเข้ารับบริการ
• ช่วยให้ผมหนาขึ้น แข็งแรงขึ้น และลดปัญหาผมร่วง
ข้อเสียของการปลูกผม PRP(Platelet Rich Plasma)
• ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ถาวร จำเป็นต้องเข้ารับบริการซ้ำเป็นระยะ
• กระบวนการสกัด PRP ใช้เวลา และอาจใช้เวลาในการทำค่อนข้างนาน
• ประสิทธิภาพของการรักษาอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล และความรุนแรงของปัญหาผมร่วง

5. การฉีด RIGENERA Micrograft Hair

คือ การเก็บเนื้อเยื่อรากผมจากบริเวณศีรษะที่ผมยังคงอยู่ที่มีรากเส้นผมแข็งแรง นำมาผ่านกระบวนการสกัดด้วยเทคโนโลยีนำเข้าจากอิตาลี แล้วนำกลับไปฉีดเข้าไปในบริเวณที่ผมบาง เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์รากผม
ข้อดีของการทำ RIGENERA Micrograft Hair
• เส้นผมที่ปลูกจะมีอายุขัยยาวนานเหมือนกับเส้นผมปกติ
• เหมาะสำหรับผู้ที่มีผมร่วง ผมบาง แต่ยังมีรูขุมขนอยู่
• ใช้เวลาทำประมาณ 1-2 ชั่วโมง
• ปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
• เจ็บตัวน้อย  ฉีดยาชาเฉพาะที่
• ไม่เกิดแผลเป็น
• แพทย์จะจัดเรียงเส้นผมให้ดูเป็นธรรมชาติ
ข้อเสียของการทำ RIGENERA Micrograft Hair
• ค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ที่ปลูก
• ประสิทธิภาพอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
• ใช้เวลา 3-6 เดือน ถึงจะเห็นผลลัพธ์
• ไม่เหมาะกับผู้ที่มีศีรษะล้านเถิก หรือมีรูขุมขนไม่เพียงพอ

6. การฉีด ALMI Nano fat transfer

คือ การกระตุ้นรากผมด้วยเซลล์ไขมันตัวเอง เทคนิคนี้เน้นการใช้เซลล์ไขมันจากบริเวณอื่นของร่างกาย เช่น สะโพกหรือหน้าท้อง หลังจากนั้นเอาเซลล์ไขมันมาสกัดให้ได้ Growth Factor แบบเข้มข้น หรือไขมันโมเลกุลเล็ก คัดสรรเฉพาะไขมันที่แข็งแรง และมีคุณภาพสูง นำกลับไปฉีดบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง เซลล์ไขมันเหล่านี้มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม และเพิ่มความหนาให้กับรากผม เห็นผลลัพธ์ดี มีงานวิจัยรับรองจากต่างประเทศ แต่ไม่ใช่แพทย์ปลูกผมทุกคนที่จะรักษาเทคนิคนี้ได้ จึงต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นนะคุณๆ
ข้อดีของการปลูกผม ALMI Nano Fat Transfer
• ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเย็บแผล 
• ไม่ต้องพักฟื้น หลังจากทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น
• เห็นผลลัพธ์ได้เร็วขึ้น โดยปกติจะเริ่มเห็นผลหลังจาก 1-2 เดือน
• ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
• มีความปลอดภัยสูง ไม่เจ็บ ไม่ต้องกังวลเรื่องการแพ้ เพราะเป็นไขมันของตัวเอง
• กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม ทำให้ผมดกหนา ดูเป็นธรรมชาติ
ข้อเสียของการปลูกผม ALMI Nano Fat Transfer
• เทคนิคนี้มีราคาค่อนข้างสูง
• ผลลัพธ์ไม่ถาวร จำเป็นต้องทำซ้ำหลังจาก 1-2 ปี
• เห็นผลลัพธ์ช้ากว่าการปลูกผมทั่วๆไป
• อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น บวม แดง ช้ำ ในบริเวณที่ฉีดไขมัน

7. การทำ FRM ANTI-HAIR LOSS

คือ เทคนิคที่ใช้คลื่นวิทยุ(Radio Frequency) ในการกระตุ้นรากผม ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นผมและช่วยในการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ FRM อาจแสดงผลเร็วขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลนะ
ข้อดีของการปลูกผม FRM ANTI-HAIR LOSS
• ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องโกนผม เหมาะสำหรับคนต้องการรักษาผมบางโดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับคนที่มีผมยาว ต้องการรักษาผมบาง ไม่ต้องเสียลุค
• เห็นผลลัพธ์เร็วสามารถผลลัพธ์ได้เร็วภายใน 2-3 เดือน
• ปลอดภัย ไร้แผล เป็นวิธีการรักษาที่ปลอดภัย ไม่ต้องพักฟื้น
• ช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผมใหม่
• ช่วยเพิ่มความหนาของเส้นผม
• ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผม
• ช่วยฟื้นฟูหนังศีรษะให้แข็งแรง
ข้อเสียของการปลูกผม FRM ANTI-HAIR LOSS
• มีคลินิกที่ทำได้จำนวนน้อยอาจจะไม่สะดวกในการรับบริการ
• ผลลัพธ์ไม่ถาวร จำเป็นต้องทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง
• อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น หนังศีรษะระคายเคือง แดง คัน
• ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงจากกรรมพันธุ์ หรือ หนังศีรษะมีแผลเป็น

ซึ่งทั้ง 7 วิธีปลูกผมที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ก็จำเป็นต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ หรือแพทย์เฉพะทาง คุณๆคนไหนที่กำลังมองหาคลินิกปลูกผม อยากเข้าไปปรึกษาคุณหมอ กูรูเช็คแนะนำ “THE SKIN CLINIC” เลยค่ะคุณๆ

คลินิกปลูกผม The Skin Clinic มีทีมแพทย์ American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS) หมอท็อป นพ.ณัทธร นฤปเวศม์ ที่ได้รับการยอมรับและมี Certificate เป็นศูนย์ปลูกผมยาว Long hair center คลินิกเฉพาะทางด้านการปลูกผม ดูแลรักษาปัญหาผมร่วง ผมบาง หัวล้าน ที่สำคัญมีเทคนิคการปลูกผมทั้ง 7 เทคนิคยอดนิยมที่กูรูเช็คบอกไปด้วยนะคุณๆ เรียกว่าทางคลินิกสามารถเลือกวิธีที่เหมาะสมกับปัญหาผมของคุณๆได้มากที่สุดด้วยนั่นเองค่ะ มีการออกแบบทรงผมให้เข้ากับรูปหน้าของแต่ละคนอย่างเป็นธรรมชาติ อุปกรณ์และเครื่องมือทันสมัยปลอดภัยได้มาตรฐาน มีลูกค้าเข้าใช้บริการมากกว่า 10,000 เคส มีสาขาครอบคลุมทั่วกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลและสามารถเลือกรักษาในโรงพบายาลชั้นนำได้!

คุณๆสามารถประเมินเคสหรือนัดปรึกษาคุณหมอที่ The Skin Clinic สามารถนัดเข้ามาที่คลินิก หรือปรึกษาออนไลน์ ให้คุณหมอประเมินเคสปลูกผมได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเลยค่ะ

สามารถติดต่อหรือนัดปรึกษาได้ที่ :
• Facebook : www.facebook.com/TSCLonghaircenter 
• Line : @tsc.theskinclinic
• Tel : 082 462 6292
สาขาของ The Skin Clinic
• สาขาสีลม 17
• สาขาพระราม 2 - บางขุนเทียน 
• สาขารามอินทรา 
• สาขาอาคารอรรถบูรณ์ - ปิ่นเกล้า
• สาขาพระราม 9
• สาขาโรงพยาบาลรวมใจรักษ์ สุขุมวิท 62

ทางทีมกูรูเช็คหวังว่าข้อมูลที่ทีมรวบรวมมาในวันนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคุณๆทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้  ฝากติดตามข้อมูล รีวิว สุขภาพและความงาม ตามหลักการแพทย์ได้ที่ช่องกูรูเช็คนะคะ


เขียนโดย : กูรูเช็ค

Views

1660

“ เราเชื่อว่าข้อมูลทางวิชาการเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลาย ๆ คนกูรูเช็คขอเป็นตัวแทนที่จะนำเสนอข้อมูลสุขภาพและความงามตามหลักการแพทย์ที่ได้รับการวิจัยและมีข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือได้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุขกับการเริ่มต้นดูแลสุขภาพให้ดีขึ้นค่ะ “